ผู้เขียน : เอกณัฏฐ์ เธียรเศรษฐกุล
Futurism -ฟิวเจอริสม์ การเคลื่อนไหวสู่อนาคต
บทความนี้ผมจะพาทุกคนมารู้จักกับหนึ่งในลัทธิศิลปะที่น่าตื่นเต้นและแตกต่างไปจากลัทธิอื่น ๆ ในประวัติศาสตร์ศิลปะ นั่นก็คือ ฟิวเจอริสม์ (Futurism) หรือ “อนาคตนิยม” ลัทธินี้ถือเป็นการปฏิวัติทางศิลปะที่เกิดขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ที่เน้นการเคลื่อนไหว ความเร็ว เทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงของสังคมในยุคสมัยใหม่
จุดเริ่มต้นของลัทธิฟิวเจอริสม์
ฟิวเจอริสม์เกิดขึ้นในประเทศอิตาลีในช่วงปี ค.ศ. 1909 โดยนักเขียนและกวีชื่อ ฟิลิปโป โทมมาโซ มาริเนตตี (Filippo Tommaso Marinetti) มาริเนตตีเขียน “แถลงการณ์ฟิวเจอริสม์” (Futurist Manifesto) และตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ Le Figaro ของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นแถลงการณ์ที่มีอิทธิพลและสร้างความฮือฮาในวงการศิลปะและวรรณกรรมทั่วโลก
ฟิวเจอริสม์เน้นไปที่การทำลายกฎเกณฑ์เก่า ๆ ของศิลปะ และหันมาเน้นการแสดงความเคลื่อนไหว พลังงาน ความเร็ว และความเป็นโมเดิร์นที่เกิดขึ้นในยุคของการปฏิวัติอุตสาหกรรม ศิลปินฟิวเจอริสม์หลงใหลในเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น รถยนต์ เครื่องบิน และเครื่องจักรกลที่สะท้อนถึงยุคสมัยใหม่และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสังคม
ลักษณะเด่นของฟิวเจอริสม์
ฟิวเจอริสม์มีลักษณะเด่นหลายประการที่แตกต่างจากลัทธิศิลปะอื่น ๆ ในยุคเดียวกัน ดังนี้
การเคลื่อนไหวและความเร็ว
ศิลปินฟิวเจอริสม์พยายามจับภาพการเคลื่อนไหวและความเร็วในงานศิลปะของพวกเขา การใช้เส้นและรูปทรงที่สลับซับซ้อนแสดงถึงความเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว
ความเป็นโมเดิร์นและเทคโนโลยี
ลัทธินี้มีความหลงใหลในเทคโนโลยีและวิทยาการใหม่ ๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นในผลงานศิลปะที่มักจะมีภาพของเครื่องจักร เครื่องยนต์ และเทคโนโลยีสมัยใหม่
การทำลายเก่าและการสร้างใหม่
ฟิวเจอริสม์เน้นการทำลายกฎเกณฑ์เก่า ๆ ของศิลปะและการสร้างศิลปะใหม่ที่เน้นความเคลื่อนไหวและพลังงาน พวกเขาเชื่อว่าโลกเก่าควรถูกล้มล้างเพื่อเปิดทางให้กับสิ่งใหม่ที่ดีกว่า
การผสมผสานระหว่างศิลปะและชีวิต
ศิลปินฟิวเจอริสม์ไม่เพียงแค่ต้องการสร้างงานศิลปะเท่านั้น แต่ยังต้องการให้ศิลปะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันและมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของผู้คน
ศิลปินที่สำคัญในลัทธิฟิวเจอริสม์
ฟิวเจอริสม์มีศิลปินหลายคนที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างและพัฒนาลัทธินี้ให้เจริญรุ่งเรือง เรามาทำความรู้จักกับบางคนที่โดดเด่นกัน
จาโคโม บัลลา (Giacomo Balla)
บัลลาเป็นศิลปินที่เน้นการแสดงความเคลื่อนไหวในงานของเขา ผลงานที่โด่งดังของเขาคือ “Dynamism of a Dog on a Leash” ซึ่งแสดงถึงการเคลื่อนไหวของสุนัขที่เดินไปพร้อมกับคนเลี้ยง
อัมแบร์โต โบชชิโอนี (Umberto Boccioni)
โบชชิโอนีเป็นหนึ่งในศิลปินที่มีบทบาทสำคัญในการนำฟิวเจอริสม์เข้าสู่วงการศิลปะสมัยใหม่ ผลงานของเขา เช่น “Unique Forms of Continuity in Space” เป็นตัวอย่างของการใช้รูปทรงที่แสดงถึงการเคลื่อนไหวและพลังงาน
ลุยจิ รุสโซโล (Luigi Russolo)
รุสโซโลเป็นทั้งศิลปินและนักดนตรี เขาเขียนหนังสือชื่อ The Art of Noises ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจในการใช้เสียงใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นจากเครื่องจักรและเทคโนโลยี
คาร์โล การา (Carlo Carrà)
การาเป็นศิลปินที่ใช้ภาพแนวทางฟิวเจอริสม์เพื่อแสดงถึงความรุนแรงและพลังงานในงานศิลปะของเขา เช่น ผลงาน “Funeral of the Anarchist Galli”
อิทธิพลของฟิวเจอริสม์ในศิลปะแขนงต่าง ๆ
ฟิวเจอริสม์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในศิลปะภาพเขียนเท่านั้นครับ แต่ยังมีอิทธิพลอย่างมากในสาขาอื่น ๆ เช่น วรรณกรรม ดนตรี สถาปัตยกรรม และภาพยนตร์ นี่คือวิธีที่ฟิวเจอริสม์ได้นำเอาความคิดและทฤษฎีของตนไปสู่ศิลปะแขนงอื่น ๆ
วรรณกรรม
มาริเนตตีและนักเขียนคนอื่น ๆ ได้เขียนบทกวีและงานวรรณกรรมที่ใช้ภาษาที่รุนแรงและเน้นความเคลื่อนไหว รวมถึงการใช้คำที่ไม่เคยใช้มาก่อนเพื่อแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงและพลังงาน
ดนตรี
รุสโซโลได้สร้างเครื่องดนตรีที่เรียกว่า “Intonarumori” ซึ่งใช้เสียงที่เกิดจากเครื่องจักรเพื่อสร้างสรรค์ดนตรีใหม่ ๆ ที่แปลกตาและไม่เหมือนใคร
สถาปัตยกรรม
ศิลปินฟิวเจอริสม์ยังมีอิทธิพลต่อการออกแบบสถาปัตยกรรมด้วย เช่น การออกแบบที่เน้นรูปทรงที่ทันสมัย ใช้เหล็กและแก้วในการก่อสร้างเพื่อสะท้อนถึงยุคสมัยใหม่
ภาพยนตร์
ฟิวเจอริสม์มีอิทธิพลต่อการพัฒนาภาพยนตร์ที่เน้นการเคลื่อนไหวและการตัดต่อที่รวดเร็ว การใช้มุมกล้องและการตัดต่อที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้ภาพยนตร์ในยุคนั้นมีความแปลกใหม่
บทสรุป
ฟิวเจอริสม์เป็นลัทธิศิลปะที่เปลี่ยนแปลงโลกของศิลปะอย่างสิ้นเชิง ด้วยความเน้นที่ความเคลื่อนไหว ความเร็ว และความเป็นโมเดิร์น ลัทธินี้ได้ทำลายกฎเกณฑ์เก่า ๆ ของศิลปะและสร้างสิ่งใหม่ที่ท้าทายและน่าตื่นเต้น ฟิวเจอริสม์ไม่เพียงแค่มีอิทธิพลในศิลปะแขนงเดียว แต่ยังมีผลกระทบต่อวรรณกรรม ดนตรี สถาปัตยกรรม และภาพยนตร์อีกด้วย
ความหลงใหลในเทคโนโลยีและวิทยาการใหม่ ๆ ของฟิวเจอริสม์ทำให้เรามองเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของสังคมในยุคนั้นได้อย่างชัดเจน หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจฟิวเจอริสม์ได้ดีขึ้น ขอบคุณที่ติดตามครับ!
| ภาพ | เครดิต |
Giacomo Balla, 1912, Dynamism of a Dog on a Leash (Dinamismo di un Cane al Guinzaglio), oil on canvas, 89.8 x 109.8 cm (35 3/8 x 43 1/4 in.), Albright–Knox Art Gallery, New York | Unique Forms of Continuity in Space (1913), by Umberto Boccioni, Museum of Modern Art (MoMA), New York. | Intonarumori instruments built by Russolo and Ugo Piatti, photo published in Russolo’s 1913 book The Art of Noises | Carlo Carrà, Funeral of the Anarchist Galli, 1911, oil on canvas, 198.7 x 259.1 cm, Museum of Modern Art, New York | en.wikipedia.org/wiki/Futurism
อ้างอิง
1. Marinetti, Filippo Tommaso. (1909). The Founding and Manifesto of Futurism. Le Figaro.
2. Coen, Ester. (1989). Umberto Boccioni. Metropolitan Museum of Art.
3. Apollonio, Umbro (ed.). (1973). Futurist Manifestos. Thames & Hudson.
4. Berghaus, Günter. (2005). Futurism and Politics: Between Anarchist Rebellion and Fascist Reaction, 1909-1944. Berghahn Books.
5. Lista, Giovanni. (2001). Futurism. Taschen.