ผลงานศิลปะ “สุข ทุกข์ (Happiness and Sorrow)” ขนาด 80 x 244 ซม. เป็นงานที่สร้างขึ้นด้วยเทคนิคแกะไม้บนพลาสวูด (Wood carving techniques on Plaswood) โดยผลงานชิ้นนี้สะท้อนความหมายที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับความสุขและความทุกข์ของมนุษย์ ซึ่งเป็นสองสิ่งที่ตรงกันข้ามแต่กลับมีความเชื่อมโยงกันอย่างแนบแน่น
ความสุข และ ความทุกข์ ของมนุษย์เป็นสิ่งที่มีมาติดตัวอยู่เสมอ ความสุข และ ความทุกข์ เป็นขั้วตรงกันข้ามกัน เมื่อใดมีความสุข ความทุกข์ก็จะซ่อนตัวไว้เหมือนเงาที่มองไม่เห็น แต่กระนั้นถึงจะมองไม่เห็นก็ใช่ว่าจะไม่มี คนเราควรจะมีสติตรึกตรองเสมอ อย่าหลงในสุขเมื่อมีทุกข์ก็รับไม่ได้ เมื่อทุกข์เกิดขึ้นก็เข้าใจว่ามันก็เป็นเช่นนั้นเอง…
แนวคิดและแรงบันดาลใจ
เป้าหมายของทุกคนที่เกิดมาย่อมต้องการที่จะมีความสุขในชีวิต การแสวงหาทุกอย่างในชีวิตไม่ว่าจะการงานที่ดี ความมั่นคง การเงิน การยอมรับ ก็เพียงหวังว่าสิ่งเหล่านั้นจะทำให้ตนเองมีความสุขได้ ความสุขจึงเปรียบเหมือนดวงอาทิตย์ที่สว่างไสว
ดวงอาทิตย์ เปรียบดังผู้ให้กำเนิดชีวิต เมื่อมีดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าโลกที่ปกคลุมไปด้วยความมืดก็มีชีวิตชีวากลับมาอีกครั้ง ทุกชีวิตจะเริ่มตื่นขึ้นมาเพื่อดำเนินกิจวัตรประจำวันของตนเอง
ชีวิตที่ดูมีความสุขก็เปรียบได้รับการประทานพรจากนางฟ้า ไม่ว่าพรอันใดที่เกิดขึ้นก็หวังมาซึ่งที่ตนจะมีความสุขในชีวิต น้ำพุแห่งชีวิตตรงกลางเปรียบได้ดังน้ำพุแห่งชีวิต เพราะคนที่อยู่ในช่วงที่ตนเองมีความสุขก็หวังว่าความสุขนี้จะอยู่กับตนเองตลอดไป เหมือนน้ำพุแห่งชีวิตสามารถทำให้คนที่ดื่มน้ำนั้นเข้าไปมีชีวิตเป็นอมตะ และสายน้ำบนน้ำพุนั้นก็ไม่เคยเหือดแห้งไป
ด้านล่างของน้ำพุนั้นมีเปลือกหอยขนาดใหญ่ ด้านในเปลือกหอยนั้นกลับเป็นผลไม้ที่คล้ายแอปเปิ้ล แทนที่จะเป็นมุกอย่างปกติ ผลแอปเปิ้ลคล้ายกับผลไม้ต้องห้ามในพระคัมภีร์ของศาสนาคริสต์ สิ่งที่ทำให้มนุษย์หลุดออกมาจากความสบายในสวนเอเดนก็คือความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์นั่นเอง
แมงกระพรุนเปรียบได้ดั่งจิตวิญญาณดั้งเดิมของมนุษย์ไม่ว่าจะผ่านกาลเวลาไปกี่ยุคกี่สมัย ความต้องการของมนุษย์ก็เป็นสิ่งที่ไม่มีสิ้นสุดกาลเวลาไม่สามารถมากีดขวางได้ ดั่งแมงกะพรุนที่เป็นสัตว์โบราณตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์ ไม่ว่าผ่านมานานเท่าใดก็ยังไม่วิวัฒนาการเป็นรูปร่างใหม่เหมือนสัตว์อื่นๆ แต่หากมองต่างมุมแมงกระพรุนอาจจะเป็นสัตว์ที่วิวัฒนาการขั้นสุดตั้งแต่แรกเริ่มเลยก็ได้เลยไม่ต้องการการวิวัฒนาการอีกแล้ว แต่สิ่งที่มองเห็นเป็นเรื่องแน่นอนก็คือแมงกะพรุนไม่ว่าผ่านมานานเท่าใด แมงกระพรุนก็ยังเหมือนเดิมเหมือนกับจิตใจมนุษย์ที่มีความต้องการไม่สิ้นสุดไม่เปลี่ยนแปลง
ด้านตรงกันข้ามของความสุขก็คือความทุกข์
ถ้าความสุขคือทะเลอันเงียบสงบ ความทุกข์ก็เปรียบดังทะเลที่มีคลื่นแรง สามารถจมเรือให้อับปางได้ เรือเปรียบดังชีวิตที่ท่องไปในทะเล บางครั้งมีความเสี่ยงสูงที่คนหนึ่งได้ออกทะเลไปแสวงหาโลกใหม่ แสวงหาทรัพย์สมบัติ ความมั่งคั่งจากดินแดนอันไกลโพ้นแล้วจะไม่ได้กลับมา หากแต่ต้องฝังร่างและชีวิตตนเองลงในทะเลนั้น แต่กระนั้นมนุษย์ก็ยังต้องการที่จะไปแสวงหาสิ่งเหล่านั้น เพียงหวังว่าสิ่งเหล่านั้นที่ตนเองต้องการจะทำให้ตนเองร่ำรวย มั่งคั่ง เพราะคิดว่าเมื่อมีสิ่งเหล่านั้นแล้วจะทำให้ตนเองมีความสุข
หญิงเปลือยเปล่านั่งอย่างมีความทุกข์บนทะเลทุกข์ก็เป็นตัวแทนของคนที่ต้องการสิ่งเหล่านั้นแต่ยังไม่ได้มาก็เป็นทุกข์เพราะความต้องการยังไม่ได้เติมเต็ม แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งเหล่านั้นต่อให้ได้มาก็อาจจะไม่ใช่ความสุขที่แท้จริงก็เป็นได้ พระจันทร์เปรียบได้ดังความเป็นคู่ตรงกันข้ามของดวงอาทิตย์ที่โผล่ขึ้นมาในกลางวัน พระจันทร์จะขึ้นมาในกลางคืนแม้เป็นจันทร์เต็มดวงก็ยังไม่สามารถเทียบได้กับแสงของดวงอาทิตย์
พระจันทร์เป็นตัวแทนของความมืดมนในดวงจิต เพราะพระจันทร์มีด้านสว่างและด้านที่มืด ด้านที่มนุษย์เห็นจากบนโลกจะเป็นด้านที่สว่างด้านเดียว แต่ด้านมืดไม่สามารถมองเห็นได้จึงไม่ต่างจากการที่ในจิตใจคนเรามักมีด้านมืดที่เก็บซ่อนไว้ไม่ให้ใครเห็นนั่นเอง
ติดตามอัพเดทผลงานและบทความใหม่ ๆ ได้ทาง FB , IG , Line